3. การวางแผนการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล

3. การวางแผนการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม

กฎหมายนี้ กำหนดให้รัฐมนตรีฯ โดยความเห็นของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ สามารถจัดทำแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะมีผลให้ส่วนราชการที่มีอำนาจหน้าที่ ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนจัดการคุณภาพ สิ่งแวดล้อม โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อาจขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนรองรับแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมนั้นได้ (มาตรา 35) ซึ่งอาจรวมถึงราชการส่วนท้องถิ่นด้วย
เมื่อมีแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว กฎหมายกำหนดให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดในท้องที่ที่เป็น เขตคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือเขตควบคุมมลพิษ มีหน้าที่จัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ระดับจังหวัด (มาตรา 37)
โดยเฉพาะพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ เจ้าพนักงานท้องถิ่น รวมทั้งประธานกรรมการบริหาร อบต. มีหน้าที่จัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อลด หรือขจัดมลพิษ โดยดำเนินการดังนี้

ทำการสำรวจ และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งกำเนิด มลพิษที่มีอยู่ในพื้นที่
จัดทำบัญชีแสดงจำนวน ประเภท และขนาดของแหล่งกำเนิดมลพิษที่สำรวจ
ศึกษาวิเคราะห์ และประเมินมลพิษ และขอบเขตความรุนแรงของปัญหา และกำหนดมาตรการที่เหมาะสม และจำเป็น สำหรับลด และขจัดมลพิษนั้น
ในการจัดทำแผนนี้ กฎหมายให้เจ้าพนักงานควบคุมมลพิษ ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามความจำเป็น (มาตรา 60) และแผนปฏิบัติการนั้น ต้องเสนอประมาณการ และคำขอจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดิน และเงินกองทุนสำหรับก่อสร้าง หรือดำเนินการ เพื่อให้มีระบบบำบัดน้ำเสียรวม หรือระบบกำจัดของเสียรวม ตามความจำเป็น (มาตรา 61) ในส่วนนี้ได้กล่าวแล้วในเรื่อง การจัดการน้ำเสีย

4. การควบคุมให้มีการรายงานการวิเคราะห์ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม

กฎหมายให้อำนาจแก่รัฐมนตรีฯ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กำหนดประเภท และขนาดของโครงการ หรือกิจการของส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน ซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา (มาตรา 46)
กรณีที่โครงการ หรือกิจการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นโครงการ หรือกิจการที่ต้องขออนุญาต จากทางราชการ ตามกฎหมายก่อนเริ่มการก่อสร้าง หรือดำเนินการ ต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสำนักนโยบาย และแผนสิ่งแวดล้อมก่อน ซึ่งผู้มีอำนาจอนุญาตตามกฎหมายเฉพาะนั้น ต้องรอการสั่งอนุญาต จนกว่าผลการพิจารณารายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบฯ นั้น จะเสร็จสิ้นเสียก่อน ซึ่งสำนักนโยบาย และแผนฯ จะแต่งตั้งให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการ เป็นผู้พิจารณารายงาน ผลกระทบฯ โดยคณะกรรมการฯ นั้น จะต้องมีผู้มีอำนาจอนุญาตโครงการ หรือกิจการนั้น หรือผู้แทน เป็นกรรมการอยู่ด้วย (มาตรา 48)
คณะกรรมการผู้ชำนาญการ จะต้องดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานฯ จากสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม หากไม่เสร็จ ให้ถือว่าเห็นชอบ เมื่อคณะกรรมการฯ เห็นชอบ ก็ให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจอนุญาตกิจการ ตามกฎหมายเฉพาะ สั่งอนุญาตให้ประกอบกิจการนั้นได้ (มาตรา 49)
นอกจากนี้ ในกรณีที่คณะกรรมการฯ ได้ให้ความเห็นชอบ ผู้มีอำนาจตามกฎหมายเฉพาะในการพิจารณาสั่งอนุญาต หรือต่ออายุใบอนุญาต มีหน้าที่นำมาตรการที่ได้เสนอไว้ ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ไปกำหนดเป็นเงื่อนไขในการสั่งการอนุญาต หรือต่ออนุญาตใบอนุญาต โดยถือว่าเป็นเงื่อนไขที่กำหนดตามกฎหมายในเรื่องนั้นด้วย (มาตรา 50)
ดังนั้น ในส่วนนี้ราชการส่วนท้องถิ่น รวมทั้ง อบต. จะมีส่วนเกี่ยวข้อง ในกรณีของกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ซึ่งผู้ประกอบกิจการนั้น ต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น หากกิจกรรมนั้นเข้าข่ายกิจการที่ต้องจัดทำรายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการก็จะต้องดำเนินการจัดทำรายงานฯ ต่อสำนักนโยบาย และแผนสิ่งแวดล้อม และนำผลการพิจารณานั้น มาประกอบการขออนุญาต หรือขอต่ออนุญาต ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นด้วย ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะพิจารณาอนุญาต หรือต่ออายุใบอนุญาต โดยไม่รอผลการพิจารณารายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของสำนักงานนโยบาย และแผนฯ มิได้ หากผลการพิจารณาไม่ผ่าน เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะต้องมีคำสั่งไม่อนุญาต แต่หากผ่านการพิจารณาก็พิจารณาอนุญาตกิจการนั้น โดยต้องนำเอามาตรการในรายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบฯ นั้น มากำหนดเป็นเงื่อนไขในใบอนุญาตด้วย

3. การวางแผนการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม

กฎหมายนี้ กำหนดให้รัฐมนตรีฯ โดยความเห็นของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ สามารถจัดทำแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะมีผลให้ส่วนราชการที่มีอำนาจหน้าที่ ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนจัดการคุณภาพ สิ่งแวดล้อม โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อาจขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนรองรับแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมนั้นได้ (มาตรา 35) ซึ่งอาจรวมถึงราชการส่วนท้องถิ่นด้วย
เมื่อมีแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว กฎหมายกำหนดให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดในท้องที่ที่เป็น เขตคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือเขตควบคุมมลพิษ มีหน้าที่จัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ระดับจังหวัด (มาตรา 37)
โดยเฉพาะพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ เจ้าพนักงานท้องถิ่น รวมทั้งประธานกรรมการบริหาร อบต. มีหน้าที่จัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อลด หรือขจัดมลพิษ โดยดำเนินการดังนี้

ทำการสำรวจ และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งกำเนิด มลพิษที่มีอยู่ในพื้นที่
จัดทำบัญชีแสดงจำนวน ประเภท และขนาดของแหล่งกำเนิดมลพิษที่สำรวจ
ศึกษาวิเคราะห์ และประเมินมลพิษ และขอบเขตความรุนแรงของปัญหา และกำหนดมาตรการที่เหมาะสม และจำเป็น สำหรับลด และขจัดมลพิษนั้น
ในการจัดทำแผนนี้ กฎหมายให้เจ้าพนักงานควบคุมมลพิษ ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามความจำเป็น (มาตรา 60) และแผนปฏิบัติการนั้น ต้องเสนอประมาณการ และคำขอจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดิน และเงินกองทุนสำหรับก่อสร้าง หรือดำเนินการ เพื่อให้มีระบบบำบัดน้ำเสียรวม หรือระบบกำจัดของเสียรวม ตามความจำเป็น (มาตรา 61) ในส่วนนี้ได้กล่าวแล้วในเรื่อง การจัดการน้ำเสีย

4. การควบคุมให้มีการรายงานการวิเคราะห์ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม

กฎหมายให้อำนาจแก่รัฐมนตรีฯ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กำหนดประเภท และขนาดของโครงการ หรือกิจการของส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน ซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา (มาตรา 46)
กรณีที่โครงการ หรือกิจการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นโครงการ หรือกิจการที่ต้องขออนุญาต จากทางราชการ ตามกฎหมายก่อนเริ่มการก่อสร้าง หรือดำเนินการ ต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสำนักนโยบาย และแผนสิ่งแวดล้อมก่อน ซึ่งผู้มีอำนาจอนุญาตตามกฎหมายเฉพาะนั้น ต้องรอการสั่งอนุญาต จนกว่าผลการพิจารณารายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบฯ นั้น จะเสร็จสิ้นเสียก่อน ซึ่งสำนักนโยบาย และแผนฯ จะแต่งตั้งให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการ เป็นผู้พิจารณารายงาน ผลกระทบฯ โดยคณะกรรมการฯ นั้น จะต้องมีผู้มีอำนาจอนุญาตโครงการ หรือกิจการนั้น หรือผู้แทน เป็นกรรมการอยู่ด้วย (มาตรา 48)
คณะกรรมการผู้ชำนาญการ จะต้องดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานฯ จากสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม หากไม่เสร็จ ให้ถือว่าเห็นชอบ เมื่อคณะกรรมการฯ เห็นชอบ ก็ให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจอนุญาตกิจการ ตามกฎหมายเฉพาะ สั่งอนุญาตให้ประกอบกิจการนั้นได้ (มาตรา 49)
นอกจากนี้ ในกรณีที่คณะกรรมการฯ ได้ให้ความเห็นชอบ ผู้มีอำนาจตามกฎหมายเฉพาะในการพิจารณาสั่งอนุญาต หรือต่ออายุใบอนุญาต มีหน้าที่นำมาตรการที่ได้เสนอไว้ ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ไปกำหนดเป็นเงื่อนไขในการสั่งการอนุญาต หรือต่ออนุญาตใบอนุญาต โดยถือว่าเป็นเงื่อนไขที่กำหนดตามกฎหมายในเรื่องนั้นด้วย (มาตรา 50)
ดังนั้น ในส่วนนี้ราชการส่วนท้องถิ่น รวมทั้ง อบต. จะมีส่วนเกี่ยวข้อง ในกรณีของกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ซึ่งผู้ประกอบกิจการนั้น ต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น หากกิจกรรมนั้นเข้าข่ายกิจการที่ต้องจัดทำรายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการก็จะต้องดำเนินการจัดทำรายงานฯ ต่อสำนักนโยบาย และแผนสิ่งแวดล้อม และนำผลการพิจารณานั้น มาประกอบการขออนุญาต หรือขอต่ออนุญาต ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นด้วย ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะพิจารณาอนุญาต หรือต่ออายุใบอนุญาต โดยไม่รอผลการพิจารณารายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของสำนักงานนโยบาย และแผนฯ มิได้ หากผลการพิจารณาไม่ผ่าน เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะต้องมีคำสั่งไม่อนุญาต แต่หากผ่านการพิจารณาก็พิจารณาอนุญาตกิจการนั้น โดยต้องนำเอามาตรการในรายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบฯ นั้น มากำหนดเป็นเงื่อนไขในใบอนุญาตด้วย

0/5000

Từ: -

Sang: -

Kết quả (Việt) 1: [Sao chép]

Sao chép!

3. kế hoạch quản lý chất lượng môi trường.Luật này. Ratmontri bởi ý kiến của môi trường quốc gia hội đồng quản trị có thể kế hoạch, quản lý, chất lượng môi trường, và phải được công bố trong công báo chính phủ, kết quả là chính phủ có thẩm quyền. Phải tuân theo để đáp ứng các kế hoạch quản lý chất lượng. Bộ môi trường wityasat có thể yêu cầu rằng các cơ quan chính phủ có liên quan; Kế hoạch hỗ trợ công tác quản lý chất lượng môi trường lập kế hoạch nó (phần 35), mà có thể bao gồm chính quyền địa phương, với.Khi một quản lý chất lượng môi trường lập kế hoạch. Của pháp luật, thống đốc môi trường địa phương bảo vệ hoặc ô nhiễm kiểm soát huyện chịu trách nhiệm cho việc tạo ra một kế hoạch hành động cho việc quản lý chất lượng môi trường. Tỉnh (phần 37).Khu vực kiểm soát ô nhiễm, đặc biệt là nhân viên, bao gồm tổng giám đốc chịu trách nhiệm cho việc tạo ra các kế hoạch hành động địa phương để giảm hoặc loại bỏ ô nhiễm bằng cách làm như sau:Tiến hành khảo sát và thu thập dữ liệu về nguồn gốc, Ô nhiễm hiện tại trong khu vực.Kế toán cho thấy số lượng và kích thước của khảo sát nguồn ô nhiễm.Nghiên cứu ô nhiễm phân tích và đánh giá về phạm vi và mức độ nghiêm trọng của vấn đề và xác định các biện pháp thích hợp và cần thiết cho việc giảm và loại bỏ ô nhiễm nó.Chuẩn bị cho kế hoạch này. Pháp luật, sĩ quan kiểm soát ô nhiễm cung cấp tư vấn và hỗ trợ cho nhân viên là cần thiết (phần 60) và kế hoạch hành động, nó phải cung cấp và yêu cầu để chiếm đoạt của ngân sách cho đất và quỹ cho xây dựng hoặc hoạt động để cung cấp nước, Hệ thống xử lý bao gồm hệ thống xử lý chất thải hoặc kết hợp là cần thiết (phần 61), phần này có đề cập đến liên quan đến quản lý nước thải.4. tuân thủ với các báo cáo, phân tích, tác động môi trường.Pháp luật quyền ratmontri mà không có sự chấp thuận của Hội đồng quản trị môi trường quốc gia. Xác định các loại và kích thước của các dự án hay công việc kinh doanh của các doanh nghiệp chính phủ hoặc nhà nước hay tư nhân. Mà phải chuẩn bị một báo cáo phân tích tác động môi trường. Nó phải được công bố trong công báo chính phủ (phần 46).Trường hợp hoặc các dự án. Mà báo cáo để phân tích các tác động môi trường là một dự án hoặc yêu cầu sự cho phép của chính phủ theo pháp luật trước khi bắt đầu xây dựng hoặc hoạt động phân tích tác động báo cáo văn phòng chính sách môi trường và lập kế hoạch, trước khi mà chính quyền được cho phép theo quy tắc telphone.Nhà tự nhiên học phải chờ đặt mua giấy phép cho đến khi các kết quả phân tích báo cáo krathop nó sẽ kết thúc trước tiên, có văn phòng chính sách và kế hoạch để bổ nhiệm một ủy ban để xem xét các báo cáo chuyên gia. Krathop kết quả của Hội đồng quản trị sẽ cho phép các cơ quan hoặc các dự án, hoặc như là một thành viên Ủy ban (phần 48).Các ủy ban của các chuyên gia Sẽ cần phải tiếp tục xem xét trong vòng 45 ngày kể từ ngày nhận được raingan từ văn phòng của chính sách môi trường và kế hoạch? Nếu điều này không thực hiện, phê duyệt mà khi hội đồng quản trị chấp thuận, các quan chức có thẩm quyền pháp lý cụ thể như vậy. Cho phép các lệnh (phần 49).Ngoài ra, trong trường hợp nơi hội đồng có thẩm quyền quy định cụ thể các giấy phép hợp pháp hoặc gia hạn giấy phép. Đó là một nhiệm vụ để mang lại các biện pháp đề xuất. Trong báo cáo, phân tích tác động môi trường, để xác định các điều kiện theo thứ tự, ủy quyền, hoặc một điều kiện của giấy phép được thiết lập bởi luật trong quan đó (phần 50).ดังนั้น ในส่วนนี้ราชการส่วนท้องถิ่น รวมทั้ง อบต. จะมีส่วนเกี่ยวข้อง ในกรณีของกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ซึ่งผู้ประกอบกิจการนั้น ต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น หากกิจกรรมนั้นเข้าข่ายกิจการที่ต้องจัดทำรายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการก็จะต้องดำเนินการจัดทำรายงานฯ ต่อสำนักนโยบาย และแผนสิ่งแวดล้อม และนำผลการพิจารณานั้น มาประกอบการขออนุญาต หรือขอต่ออนุญาต ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นด้วย ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะพิจารณาอนุญาต หรือต่ออายุใบอนุญาต โดยไม่รอผลการพิจารณารายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของสำนักงานนโยบาย และแผนฯ มิได้ หากผลการพิจารณาไม่ผ่าน เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะต้องมีคำสั่งไม่อนุญาต แต่หากผ่านการพิจารณาก็พิจารณาอนุญาตกิจการนั้น โดยต้องนำเอามาตรการในรายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบฯ นั้น มากำหนดเป็นเงื่อนไขในใบอนุญาตด้วย

đang được dịch, vui lòng đợi..

Kết quả (Việt) 2:[Sao chép]

Sao chép!

3. Quy hoạch, quản lý chất lượng, môi trường

pháp luật, các bang tướng. Các ý kiến của Hội đồng quản trị môi trường quốc gia. Lập kế hoạch quản lý môi trường. Và công bố trên Công báo Kết quả là, các cơ quan chính phủ có thẩm quyền. Phải tuân thủ các kế hoạch quản lý chất lượng môi trường của Bộ Khoa học và Công nghệ. Có thể yêu cầu các cơ quan chính phủ có liên quan. Lên kế hoạch cho các kế hoạch quản lý môi trường (Điều 35), trong đó có thể bao gồm chính quyền địa phương là tốt.
Khi một kế hoạch quản lý và chất lượng môi trường. Luật yêu cầu Thống đốc khu vực. Bảo vệ môi trường County Hoặc khu kiểm soát ô nhiễm Một kế hoạch hành động trước Môi trường tỉnh (Điều 37)
, đặc biệt là trong lĩnh vực kiểm soát ô nhiễm. quan chức địa phương Chủ tịch TAO. Có một kế hoạch hành động để giảm thiểu hoặc loại bỏ ô nhiễm. Để làm

nghiên cứu và thu thập thông tin về nguồn gốc. Sự ô nhiễm trong khu vực
Kế toán cho thấy số lượng, chủng loại và kích thước của các nguồn khảo sát ô nhiễm.
nghiên cứu phân tích Và đánh giá ô nhiễm Phạm vi và mức độ nghiêm trọng của vấn đề Và xác định các biện pháp cần thiết để giảm và loại bỏ ô nhiễm.
Trong quá trình lập kế hoạch này PCO để cung cấp tư vấn pháp lý và hỗ trợ chính quyền địa phương. Khi cần thiết (Điều 60) và Kế hoạch hành động. để ước tính Và yêu cầu việc phân bổ ngân sách Và kinh phí xây dựng hoặc thực hiện Để cung cấp một hệ thống xử lý nước thải. Hoặc xử lý chất thải Khi cần thiết (Điều 61) Phần này đã thảo luận vấn đề này. Quản lý nước thải

4. Kiểm soát các báo cáo phân tích. tác động môi trường

Luật pháp trao quyền cho Bộ trưởng Bộ Với sự chấp thuận của Hội đồng quản trị môi trường quốc gia xác định loại và kích cỡ của dự án. Hoặc việc kinh doanh của chính phủ Hoặc nhà nước hay tư nhân, phải chuẩn bị một báo cáo phân tích các tác động đến môi trường. Phải được công bố trên Công báo (phần 46),
nếu các dự án hoặc hoạt động cần thiết để chuẩn bị một báo cáo phân tích những tác động môi trường của dự án hoặc tổ chức phải yêu cầu sự cho phép của chính phủ của pháp luật trước khi bắt đầu xây dựng. hoặc thực hiện Để chuẩn bị một báo cáo phân tích các chính sách tác động. Và kế hoạch môi trường Chính quyền do pháp luật cụ thể. Chờ cho phép Cho đến khi kết quả của báo cáo Phân tích tác động sẽ được hoàn thành đầu tiên. Văn phòng Chính sách và Quy hoạch, sẽ chỉ định một ủy ban gồm các chuyên gia. Hãy xem xét các báo cáo của Hội đồng quản trị được ủy quyền để cho phép dự án. Hoặc tổ chức hoặc giám đốc đại diện với (Điều 48),
các ủy ban chuyên gia. Xem xét phải được thực hiện trong vòng 45 ngày kể từ ngày nhận được báo cáo. Văn phòng Chính sách và Quy hoạch môi trường, nếu không hoàn thành, sẽ được coi là đã được phê duyệt. Ủy ban cũng đồng ý cho phép các vấn đề thẩm quyền chính thức. Theo luật, chỉ Để vận hành nó (Điều 49)
Ngoài ra, Hội đồng quản trị. Đã được phê duyệt Ủy quyền của pháp luật để cho phép xem xét. Hoặc gia hạn giấy phép Đã đưa ra những biện pháp được đề xuất. Báo cáo đánh giá tác động môi trường. Để thiết lập các điều kiện cho phép. Hoặc để cấp giấy phép Giả sử các điều kiện do pháp luật quy định tại bản thân (Điều 50)
, vì vậy trong chính quyền địa phương này, bao gồm Taos. Nó có liên quan. Trong trường hợp của một thực thể có hại cho sức khỏe. Theo Đạo luật Y tế công cộng năm 2535, đó là các nhà điều hành. Phải yêu cầu sự cho phép của chính quyền địa phương Nếu sự kiện là một thực thể kết nối sẽ chuẩn bị một báo cáo. Việc đánh giá tác động môi trường Khai thác cũng sẽ được yêu cầu chuẩn bị một báo cáo. Văn phòng Chính sách Môi trường và Kế hoạch Các kết quả của Do quyết; Hoặc yêu cầu sự cho phép Một quan chức địa phương với Chính quyền địa phương sẽ được phép Hoặc gia hạn giấy phép Không chờ đợi kết quả của báo cáo. Việc đánh giá tác động môi trường Văn phòng Chính sách và Quy hoạch, nói rằng nếu một quyết định không được thông qua. Các quan chức địa phương đã ra lệnh không được phép. Nếu được chấp thuận, cho phép các thực thể. Sự cần thiết phải có các biện pháp trong báo cáo. Phân tích tác động đã được định nghĩa như là một điều kiện trong giấy phép.

đang được dịch, vui lòng đợi..

Kết quả (Việt) 3:[Sao chép]

Sao chép!

3. Chất lượng quy hoạch quản lý môi trường.Luật là luật, thưa Bộ trưởng.Ý kiến của Cục Môi trường quốc gia.Có thể làm cho kế hoạch quản lý chất lượng môi trường.Và ở đăng.Chính quyền khu vực bị ảnh hưởng.Phải tuân thủ nghiêm ngặt bởi môi trường kế hoạch quản lý khoa học và công nghệ có thể yêu cầu liên quan đến phần vương quốc.Lập kế hoạch và quản lý môi trường kế hoạch (số 35), trong đó có thể bao gồm cả chính quyền địa phương.Kế hoạch quản lý môi trường, quan trấn thủ ở địa phương, pháp luật, bảo vệ khu vực kiểm soát khí thải của khu vực sinh thái.Chịu trách nhiệm về kế hoạch.Có 37 đơn vị hành chính môi trường (số).Thực hiện toàn diện đặc biệt là khu vực kiểm soát khí thải (bao gồm cả các quan chức địa phương án hành động để giảm hoặc loại bỏ ô nhiễm.Được thực hiện như sau.Liên quan đến điều tra và thu thập dữ liệu trong không gian tồn tại nguồn ô nhiễmCác báo cáo tài chính Kế toán của loại và kích thước hiển thị ô nhiễm nguồn tin điều tra.Phân tích và đánh giá mức độ nghiêm trọng của vấn đề và phạm vi ô nhiễm.Chắc là cần thiết để có biện pháp thích hợp, giảm ô nhiễm và loại bỏ.Trong kế hoạch này. Ô nhiễm khu vực kiểm soát pháp luật đề nghị và hỗ trợ của địa phương cần và kế hoạch hành động (thứ 60).Dự đoán và cung cấp ngân sách trợ cấp yêu cầu.Hệ thống xử lý nước thải hoặc tiến hành cho quỹ xây dựng hệ thống xử lý chung của biến dạng, hoặc theo cần 61 (số).Trong phần này, đã đề cập đến việc quản lý nước thảiCó 4 phân tích kiểm soát môi trường ảnh hưởng đếnĐúng pháp luật Bộ trưởng.Ủy ban quốc gia về môi trường cho phép xác định kiểu và quy mô dự án hay cơ quan Chính phủ hoặc doanh nghiệp Nhà nước hay một công việc riêng tư trên cơ sởPhải tiến hành báo cáo đánh giá tác động môi trường.Qua 46 Bulletin (số).Tình trạng của dự án hay doanh nghiệp cần

đang được dịch, vui lòng đợi..

Các ngôn ngữ khác

Hỗ trợ công cụ dịch thuật: Albania, Amharic, Anh, Armenia, Azerbaijan, Ba Lan, Ba Tư, Bantu, Basque, Belarus, Bengal, Bosnia, Bulgaria, Bồ Đào Nha, Catalan, Cebuano, Chichewa, Corsi, Creole (Haiti), Croatia, Do Thái, Estonia, Filipino, Frisia, Gael Scotland, Galicia, George, Gujarat, Hausa, Hawaii, Hindi, Hmong, Hungary, Hy Lạp, Hà Lan, Hà Lan (Nam Phi), Hàn, Iceland, Igbo, Ireland, Java, Kannada, Kazakh, Khmer, Kinyarwanda, Klingon, Kurd, Kyrgyz, Latinh, Latvia, Litva, Luxembourg, Lào, Macedonia, Malagasy, Malayalam, Malta, Maori, Marathi, Myanmar, Mã Lai, Mông Cổ, Na Uy, Nepal, Nga, Nhật, Odia (Oriya), Pashto, Pháp, Phát hiện ngôn ngữ, Phần Lan, Punjab, Quốc tế ngữ, Rumani, Samoa, Serbia, Sesotho, Shona, Sindhi, Sinhala, Slovak, Slovenia, Somali, Sunda, Swahili, Séc, Tajik, Tamil, Tatar, Telugu, Thái, Thổ Nhĩ Kỳ, Thụy Điển, Tiếng Indonesia, Tiếng Ý, Trung, Trung (Phồn thể), Turkmen, Tây Ban Nha, Ukraina, Urdu, Uyghur, Uzbek, Việt, Xứ Wales, Yiddish, Yoruba, Zulu, Đan Mạch, Đức, Ả Rập, dịch ngôn ngữ.