“พวกคุณมีเสียงแค่นี้รึไง ผมขอดังกว่านี้!” คำตะโกนถามดังขึ้นด้วยความดุดัน เหมือนผู้คุมตวาดใส่นักโทษ เพียงแต่นักโทษตอนนี้ไม่ได้อยู่ในคุก หากกำลังนั่งหน้าจ๋อยอยู่กลางห้องประชุมเชียร์คณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยมีบรรดาพวกพี่ปีสามยืนตัวตรงตั้งท่าระเบียบพักอยู่ต่อด้านหน้าของน้องเฟรชชี่ พลางส่งสายตาคมกริบคล้ายถูกน้องไปทำให้โกรธแค้นมาแต่ชาติปางไหน โดยเฉพาะกับ ‘อาทิตย์’ หนุ่มหน้าคม นัยน์ตาดุ ผู้มีตำแหน่งเฮดว้ากที่เพิ่งดุน้องเรื่องตอบเสียงเบาไปหมาด ๆ แต่ความจริงแล้ว ต่อให้เสียงที่พวกน้องตอบมันดังเหมือนเปิดคอนเสิร์ตเขาก็จะบอกว่าไม่ได้ยินอยู่ดี... Tại sao các guys vấn đề? Nó là ở đây, đó là đặc ân của tôi để wow Click vào kế thừa các ý tưởng từ một thế hệ khác, tôi muốn nói rằng những gì các chị vs. Kinh nghiệm của mình, họ đi ra. Và đây là chỉ là bắt đầu, bởi vì nó thực sự là thêm khó khăn hơn nó sẽ tiếp theo. Người đàn ông đeo vai trò của Mít gỗ wa, anh trai màu bài học các khóa học để loại bỏ chúng. Trước khi tôi yêu cầu âm thanh với mịn nhắc lại một cú đấm. "Tôi sẽ yêu cầu một phiên bản mới, bạn có rất nhiều người!" Quanh bụng phòng hội nghị lặng lẽ Không phải đi ra ngoài chủ nhật mà....มันก็แน่อยู่แล้วเพิ่งเปิดเทอมเรียนมาได้สองวัน ใครจะมาจำชื่อได้ว่าเพื่อนทั้งหมดมีกี่คน ยิ่งกับคณะวิศวกรรรมศาสตร์ที่มีคนเรียนเยอะเป็นอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัย ตัวเลขนับได้เป็นพันคน ให้มาบอกเจาะจงแบบนี้ ขอไปแก้สมการแคลคูลัสยังง่ายกว่าแต่สถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ก็นับว่าเข้าทางเขาพอดี เพราะมันยิ่งสร้างความกดดันให้น้องเฟรชชี่ทั่วท้องหอประชุม ...ใครว่าการรับน้องของคณะวิศวกรรมศาสตร์ต้องเถื่อน พูดมึงกูใส่กัน ไม่จำเป็นครับ เราเป็นนักศึกษาแสดงอำนาจได้โดยไม่ต้องถ่อย เพราะเดี๋ยวจะโดนอาจารย์จับตามองแล้วจะยุ่ง กฎของพี่ว้ากจึงต้องพูดจากสุภาพกับน้อง ๆ แต่ไอ้ประโยคผู้ดี ๆ นี่แหละ ที่เชือดพวกน้องแบบนิ่ม ๆ จนพากันก้มหน้ากลัวกันหัวหด เหมือนกับที่เขาเลือกใช้คำมาสร้างความกดดันต่อ “ไม่มีใครตอบ แสดงว่าพวกคุณไม่สนใจเพื่อนของคุณเลยใช่มั้ยครับ ถึงจำเพื่อนรุ่นเดียวกันไม่ได้!!” เฮดว้ากหน้าคมเริ่มก้าวเดินไปรอบ ๆ แถวที่นั่งอยู่ของน้องช้า ๆ นัยว่าแสดงอำนาจและเป็นการข่มขวัญให้น้องกลัว กวาดสายตามองสำรวจน้องซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำหน้าซึม มีบางที่นั่งสะอื้นร้องไห้เบา ๆ เป็นการการันตีว่าความเด็ดขาดที่ฝึกมาของเขาคงได้ผล
อันที่จริง ไอ้ก็เขาไม่ได้ใจจืดใจดำ หรือโรคจิตชอบเห็นคนร้องไห้ขนาดนั้นหรอกครับ มันเป็นไปตามหน้าที่ของพี่ว้าก พอน้องผู้หญิงร้องไห้ ใจมันแกว่งหน่อย ๆ ยิ่งกับน้องน่ารัก ๆ เห็นแล้วก็อยากจะเข้าไปกอดปลอบ แต่ก็ต้องตีหน้าขรึมเอาไว้ มองดุ ๆ ใส่น้องคนสวยซึ่งน้ำตาร่วงเผาะ ๆ จนน้องผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ ต้องยื่นผ้าเช็ดหน้าส่งไปให้ ซึ่งน้องคนสวยก็รับมาพลางยิ้มขอบคุณทั้งน้ำตาเปื้อนหน้า
...โอ้โห...หวานเนอะ หวานกันจริง มันเห็นหัวเขาบ้างมั้ยเนี่ย ...ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ยังจะมาจีบกันต่อหน้าต่อตาอีก อุตส่าห์เล็งน้องคนสวยไว้ กะจะขอเบอร์นอกรอบสักหน่อย แต่ดันโดนตัดหน้าไปก่อนซะงั้น
อ้อ...น้องอยากโชว์แมนเหรอครับ ...อยากโชว์แมนมากใช่มั้ย ...ได้...เดี๋ยวพี่จัดให้!
“น้องคนนั้นลุกขึ้นมา!!”
เขาตวาดใส่น้องผู้ชายที่เป็นเจ้าของผ้าเช็ดหน้า ทำเอาน้องคนสวยที่นั่งข้าง ๆ ตกใจแทน รีบมองเพื่อนด้วยความกังวล เพราะดันโดนพี่ว้ากเพิ่งเล็ง แต่คนถูกเรียกยังเก๊กส่ายหน้าเหมือนไม่เป็นไร ก่อนลุกขึ้นยืนตัวตรงเต็มความสูง ซึ่งทำเอาเขาแอบอึ้งไปเล็กน้อย เพราะเขาว่าตัวเองก็สูง 178 เซ็นไม่ใช่น้อย ๆ แล้วเหมือนกันนะ แต่ไอ้เด็กขี้เก๊กนี้ยังสูงกว่าเขาเกือบสิบเซ็น แถมยังคิ้วเข้มหน้าตาดีแผ่รังสีออร่าเล่นกลบผู้ชายทั้งคณะจนหน้าหมอง
แหม....เห็นแล้วชักจะคันเท้าขึ้นมาตงิด ๆ ยิ่งเพิ่มความหมั้นไส้ให้มากขึ้นเป็นสองเท่า
...ดีเลยจะได้จัดหนัก ๆ เอาคืนให้สมใจโทษฐานหล่อเกินพี่ว้าก
“บอกชื่อกับรหัสคุณมาดัง ๆ”
“ผมชื่อ ก้องภพ รหัส 0062 ครับ"
“ตอบผมสิว่ารุ่นคุณมีกี่คน”
“ไม่ทราบครับ”
“ทำไมถึงไม่ทราบ”
“ผมไม่เคยนับครับ”
ไม่ใช่แค่คิ้วของคนฟังที่กระตุก แต่ก็มือก็ชักเริ่มกระตุกตาม จนอยากจะเอาหมัดไปแนบหน้านิ่ง ๆ นั้นสักที
...กวนตีนแล้วครับน้อง...กวนตีน... พูดแบบนี้มันคิดจะหาเรื่องปีนเกลียวกันชัด ๆ
ถ้าเจอแถวข้างนอกเขาคงจะเรียกเพื่อนมารุมกระทืบแล้ว แต่ตอนนี้เขายังอยู่ในห้องประชุม ท่ามกลางสายตาของเฟรชชี่อีกเป็นร้อยคน โดนหยามศักดิ์ศรีมันเรื่องเล็กน้อยไม่มีสะดุ้ง เพราะตราบใดที่เขาเป็นพี่ว้ากเขาก็มีสิทธิพร้อมจะเอาคืนได้เสมอ
นายอาทิตย์จึงพยายามข่มอารมณ์หงุดหงิดไว้ เปลี่ยนเป็นคำสั่งด้วยน้ำเสียงตวาดดุ
“ถึงไม่เคยนับข้อมูลพวกนี้คุณก็ต้องรู้ ทุกคำถามของผมคุณต้องตอบให้ได้ เข้าใจมั้ย!!”
“เข้าใจครับ”
เขาพยักหน้าเมื่ออีกฝ่ายตอบรับ ก่อนจะล้วงมือเขาไปในกระเป๋ากางเกงนักศึกษา หยิบสร้อยเชือกที่มีจี้คล้องเป็นเกียร์รุ่นสีน้ำตาล ยื่นมาโชว์ต่อหน้าพร้อมคำถาม
“คุณเห็นเกียร์นี่มั้ย”
“เห็นครับ”
“เกียร์นี้มันเป็นเกียร์รุ่น เป็นความภาคภูมิใจของวิศวะทุกคน ไม่ใช่แค่ของใครคนเดียว ถ้าพวกคุณไม่แสดงให้ผมเห็นว่าคุณพร้อมจะรับมันก็ออกไปจากที่นี่ซะ! ผมจะถือว่าคุณไม่ใช่รุ่นน้องของคณะเราอีกต่อไป!!”
ท้ายประโยคเขาไม่ได้พูดใส่น้องผู้ชายที่ยืน แต่หันไปบอกกับน้องปีหนึ่งที่นั่งเรียงเหมือนพูดขู่ เพราะการจะได้รุ่นหรือไม่ได้รุ่น สิทธิขาดมันขึ้นอยู่กับพี่ปีสามอย่างพวกเขา
ถ้าพวกน้องปีหนึ่งทำตัวดี ๆ เคารพเชื่อฟัง เข้ากิจกรรมบ่อย ๆ ก็จะได้เกียร์ที่เป็นเหมือนศักดิ์ศรีของวิศวะไปง่าย ๆ ตรงข้ามถ้าน้องปีหนึ่งทำตัวหน้าหมั้นไส้ ก็จะถือว่าสอบตกกันทั้งรุ่น ต้องมาทำการรับน้องซ่อมกันใหม่ ซึ่งขอบอกว่าโหดกว่าที่รับกันปกติหลายเท่า แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นมาอีกก็ปรับตกไม่ต้องเอาเกียร์ไปเลยยกรุ่นให้เป็นที่อับอายของปีไป
...เรื่องนี้ไม่ได้ล้อเล่นนะครับ พูดจริงทำจริง มีตัวอย่างให้เห็นเป็นบางรุ่นแล้ว และน้อง ๆ เฟรชชี่ก็รู้ดี ดังนั้นคำขู่นี้จึงได้ผลไม่น้อย สังเกตได้จากน้องหลายคนเริ่มหน้าซีดเหมือนจะเป็นลม ทำให้คนที่ถือไพ่เหนือกว่ายิ้มเยาะในใจ ก่อนเปลี่ยนกลับมาโจมตีเป้าหมายที่เมื่อกี๊บังอาจออกลายทำตัวเปรี้ยวกับเขา
“ทีนี่ตอบผมสิ คุณ
đang được dịch, vui lòng đợi..