ผมก็ขอนำวิธีการขยายเชื้อเห็ดโคนป่าจ

ผมก็ขอนำวิธีการขยายเชื้อเห็ดโคนป่าจากจาวปลวก (fungus garden) มาโพสต์ไว้เป็นความรู้ครับ
ในระบบนิเวศน์หนึ่งๆประกอบด้วยผู้ผลิตผู้บริโภคและผู้ย่อยสลายซึ่งมีความสัมพันธ์เกื้อกูลในลักษณะของห่วงโซ่อาหารและสายใยอาหารตามพื้นผิวของระบบนิเวศน์เอง ก็มีอาณาจักรแห่งผู้ย่อยสลายในธรรมชาติซึ่งประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วๆ ชนิดต่างๆ มากมาย ต่างทำหน้าที่ในการย่อยสลายซากพืช ซากสัตว์ เพื่อการหมุนเวียนพลังงาน ในระบบนิเวศ ประกอบด้วย ปลวก จุลินทรีย์ เห็ด รา สัตว์หน้าดินและสัตว์ในดิน การย่อยสลายเป็นปัจจัยหนึ่งในห่วงโซ่อาหาร (Food Chain) และสายใยอาหาร (Food Web) สัตว์ย่อยสลายชนิดต่างๆมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ย่อย "ขยะธรรมชาติ" เช่นซากพืช ซากสัตว์ ให้ผุพังและเปลี่ยนแปลงเป็นฮิวมัสหรืออินทรีย์วัตถุภายในดินกลายเป็นธาตุอาหารของพืชและสัตว์ชนิดอื่นๆ ทำให้เกิดการถ่ายทอดและหมุนเวียนพลังงานสร้างความอุดมสมบูรณ์ก่อให้เกิดความสมดุลในระบบนิเวศน์
ปลวกเป็นแมลงสังคมที่มีความสำคัญอยู่ในระบบนิเวศป่าไม้คือเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายโดยปลวกทำหน้าที่เป็นผู้ย่อยสลาย(decomposer)พวกอินทรีย์วัตถุต่างๆที่อยู่ในป่าธรรมชาติเช่น ซากพืช เศษไม้ ใบไม้ หรือท่อนไม้ที่หักทับถมกันอยู่ให้เปลี่ยนเป็นฮิวมัสและก่อให้เกิดการหมุนเวียนอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของธาตุอาหารในดินสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินในป่าธรรมชาติ
ปลวกยังมีบทบาทเกี่ยวพันเป็นลูกโซ่อาหารที่ซับซ้อนอยู่ในระบบนิเวศ นอกจากนี้รังปลวก ขนาดใหญ่ที่สร้างรังขึ้นมาบนดิน พืช หรือสัตว์ชนิดต่างๆ สามารถใช้เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยได้อีกด้วย ความสามารถในการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุและเซลลูโลสในไม้ของปลวกชนิดต่างๆ พบว่า มีความสัมพันธ์กับชนิดของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของปลวก ซึ่งจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิด ของปลวกและสภาพแวดล้อม
ปลวกในประเทศไทยมีหลายชนิดทุกชนิดจะกัดกินไม้ทั้งนั้นบางชนิดมีจุลินทรีย์ ช่วยย่อยเซลลูโลสอยู่ในระบบทางเดินระบบอาหาร แต่บางชนิดมีการย่อยไม้นอกตัวปลวกโดยการสร้างจาวปลวก หรือ fungus garden ในฤดูกาลที่เหมาะสมจะเกิดเห็ดปลวก หรือเห็ดโคนขึ้น ซึ่งเราเก็บมารับประทานได้ เห็ดปลวกปัจจุบันนับว่าน้อยลง และราคาแพงขึ้น เป็นการกระตุ้นนักวิชาการให้ศึกษาวิจัยเห็ดนี้ ซึ่งปัจจุบันมีผลการศึกษาในระดับหนึ่ง
ปลวกเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อการเกิดของเห็ดโคนมาก เพราะหากไม่มีปลวกอาศัยอยู่ใน จอมปลวกแล้ว เห็ดโคนก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ ส่วนการหาเห็ดโคนนั้นภูมิปัญญาท้องถิ่นก็ยังมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ด้วยว่า หาก จะหาเห็ดโคนให้เจอง่ายๆ แล้วต้องหาตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะใต้ต้นเห็ดโคนจะมีสารเรืองแสงอ่อนๆ คือธาตุฟอสฟอรัสอยู่ การหาเห็ดโคนตอนกลางคืนจึงหาเจอได้ง่ายกว่าหาตอนกลางวันมาก
เห็ดโคน เป็นเห็ดป่าเติบโตได้ดีในสภาพธรรมชาติ ความชื้นและอุณหภูมิที่พอเหมาะ มีรูปร่างเหมือนเห็ดทั่วไปคือมีก้านเห็ดและหมวกเห็ด ดอกใหญ่ โคนอวบหนา มีกลิ่นเฉพาะตัว มักเกิดตามจอมปลวก จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เห็ดปลวก มีการอพยพของปลวกที่เราเรียกว่า แมลงเม่า ออกจากรังปลวกเดิม เพื่อสร้างรังใหม่ การที่ฝนตกชุกจนมีความชุ่มชื้นเหมาะสม เมื่อปลวกในรังปลวกมีปริมาณลดลง ตุ่มดอกเห็ดเล็กๆ สามารถมีโอกาสที่จะเจริญเติบโตเป็นดอกเห็ดที่มีความชุ่มชื้นออกมาได้
คนไทยเรารู้จักเห็ดชนิดนี้มานานและรู้ว่าสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายชนิด ประกอบกับการที่เห็ดโคนเองมีรสชาติที่น่ารับประทาน จึงจัดเป็นเห็ดหายากจะต้องหาตามป่าเขา ห่างไกล ความเจริญ ซึ่งเห็ดโคนนั้นมีรสหวานอร่อยกว่าเห็ดอื่นๆ ปรุงง่ายเพียงต้มกับเกลือก็ได้น้ำต้มเห็ดรสหวานตามธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยเจริญอาหาร บำรุงกำลัง แก้บิด แก้คลื่นไส้ อาเจียน
แก้ไอ ละลายเสมหะ การทดลองทางเภสัชศาสตร์พบว่าน้ำที่สกัดจากเห็ดโคนสามารถยับยั้งเชื้อโรคบางชนิด เช่น เชื้อไทฟอยด์ได้ จึงเป็นที่นิยมกันมาก ซึ่งมีวางขายเฉพาะในฤดูฝนเท่านั้น
วิธีการเก็บเห็ดโคน ต้องใช้มือถอน ไม่ให้ใช้มีด จอบ หรือไม้ปลายแหลมที่อาจไปทำลายสวนเห็ดรา (fungus garden) ของปลวกซึ่งเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้เห็ดโคนเกิดขึ้นมาได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนช่องรูพรุนๆ ภายในสวนเห็ดราหรือโนดูล (nodule) ที่อยู่ในรังปลวก และเวลาเด็ดเห็ดโคนไปก็ให้เด็ดให้เหลือก้านติดอยู่ที่เดิม ไม่ให้ถอนส่วนที่เป็นสวนเห็ดราออกมาด้วย"

เห็ดโคนจึงจัดว่าเป็นเห็ดที่นิยมบริโภคถึงแม้ว่าจะมีราคาแพง แต่ก็มีหลายหน่วยงานที่จะทดลอง วิจัยเพาะพันธ์ผสมสูตรอาหารทางเคมีและเทคนิควิธีมากมาย ในการเพาะพันธ์เห็ดโคน แต่ก็ยังไม่สามารถประสบความสำเร็จจนถึงการเพาะเป็นอาชีพได้
ประโยชน์ของเชื้อเห็ดโคนป่าจากจาวปลวก (fungus garden) ที่มีต่อเกษตรกรและชุมชน
๑.ใช้สำหรับย่อยสลายฟางข้าวในแปลงนา จุลินทรีย์เชื้อเห็ดโคนป่ามีความสามารถในการย่อยสลาย
เซลลูโลสในเนื้อไม้ได้ดี เมื่อเรานำมาย่อยสลายฟางข้าวจะทำให้ฟางข้าวย่อยสลายอย่างรวดเร็ว
เกษตรกรจะได้ไม่ต้องเผาฟางข้าวก่อนที่จะเตรียมแปลงนา ทำให้ดินในแปลงนามีอินทรียวัตถุ
เพิ่มมากขึ้น ดินจะมีธาตุอาหารมากขึ้นทำให้ลดต้นทุนในการผลิตได้เป็นอย่างมาก
๒.ใช้ช่วยเพิ่มธาตุฟอสฟอรัส (P) เป็นธาตุที่พืชต้องการน้อยกว่าไนโตรเจน เมื่อพืชได้รับ
ฟอสฟอรัสเพียงพอ รากจะแข็งแรง ทนทานต่อการรบกวนของโรคแมลง ทำให้พืชออกดอก
ติดผล และมีคุณภาพดี จุลินทรีย์เชื้อเห็ดโคนป่า มีจุลินทรีย์ที่สามารถตรึงธาตุฟอสฟอรัสจากดิน
มาเลี้ยงพืชได้ ทำให้ชาวนาสามารถลดรายจ่ายในการใช้ปุ๋ยเคมีในนาข้าวได้มาก
๓.ใช้เป็นแหล่งอาหารของครอบครัวโดยนำเชื้อจุลินทรีย์เชื้อเห็ดโคนป่า ไปราดบริเวณโคนต้นไม้ที่
มีปลวกอาศัยอยู่เมื่ออากาศร้อนชื้นเหมาะสมก็จะเห็นเห็ดโคนป่าขึ้น สามารถนำไปเป็นอาหาร
และนำไปขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวได้อีกทาง
๔.ใช้ในการสร้างแรงจูงใจในการปลูกป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่างในพื้นที่ของตนเองเพื่อให้มี
พื้นที่สำหรับเป็นแหล่งอาหารของตนเอง โดยเฉพาะเห็ดโคนป่าที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ
จะสามารถทำให้อนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของชุมชนได้เป็นอย่างดี
๕. ใช้สำหรับย่อยสลายสมุนไพรในการทำน้ำหมักสมุนไพรป้องกันแมลงศัตรูพืช เชื้อจุลินทรีย์
เชื้อเห็ดโคนป่าสามารถย่อยสลายพืชสมุนไพรได้อย่างรวดเร็ว สามารถลดการใช้ส

Kết quả (Việt) 1:

Tôi cũng nhận được giám mục hoang dã nấm làm thế nào để trích xuất nhiên liệu từ Joao mối (nấm vườn) một kiến thức về lol đăng bai.ในระบบนิเวศน์หนึ่งๆประกอบด้วยผู้ผลิตผู้บริโภคและผู้ย่อยสลายซึ่งมีความสัมพันธ์เกื้อกูลในลักษณะของห่วงโซ่อาหารและสายใยอาหารตามพื้นผิวของระบบนิเวศน์เอง ก็มีอาณาจักรแห่งผู้ย่อยสลายในธรรมชาติซึ่งประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วๆ ชนิดต่างๆ มากมาย ต่างทำหน้าที่ในการย่อยสลายซากพืช ซากสัตว์ เพื่อการหมุนเวียนพลังงาน ในระบบนิเวศ ประกอบด้วย ปลวก จุลินทรีย์ เห็ด รา สัตว์หน้าดินและสัตว์ในดิน การย่อยสลายเป็นปัจจัยหนึ่งในห่วงโซ่อาหาร (Food Chain) และสายใยอาหาร (Food Web) สัตว์ย่อยสลายชนิดต่างๆมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ย่อย "ขยะธรรมชาติ" เช่นซากพืช ซากสัตว์ ให้ผุพังและเปลี่ยนแปลงเป็นฮิวมัสหรืออินทรีย์วัตถุภายในดินกลายเป็นธาตุอาหารของพืชและสัตว์ชนิดอื่นๆ ทำให้เกิดการถ่ายทอดและหมุนเวียนพลังงานสร้างความอุดมสมบูรณ์ก่อให้เกิดความสมดุลในระบบนิเวศน์ปลวกเป็นแมลงสังคมที่มีความสำคัญอยู่ในระบบนิเวศป่าไม้คือเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายโดยปลวกทำหน้าที่เป็นผู้ย่อยสลาย(decomposer)พวกอินทรีย์วัตถุต่างๆที่อยู่ในป่าธรรมชาติเช่น ซากพืช เศษไม้ ใบไม้ หรือท่อนไม้ที่หักทับถมกันอยู่ให้เปลี่ยนเป็นฮิวมัสและก่อให้เกิดการหมุนเวียนอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของธาตุอาหารในดินสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินในป่าธรรมชาติ ปลวกยังมีบทบาทเกี่ยวพันเป็นลูกโซ่อาหารที่ซับซ้อนอยู่ในระบบนิเวศ นอกจากนี้รังปลวก ขนาดใหญ่ที่สร้างรังขึ้นมาบนดิน พืช หรือสัตว์ชนิดต่างๆ สามารถใช้เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยได้อีกด้วย ความสามารถในการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุและเซลลูโลสในไม้ของปลวกชนิดต่างๆ พบว่า มีความสัมพันธ์กับชนิดของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของปลวก ซึ่งจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิด ของปลวกและสภาพแวดล้อม ปลวกในประเทศไทยมีหลายชนิดทุกชนิดจะกัดกินไม้ทั้งนั้นบางชนิดมีจุลินทรีย์ ช่วยย่อยเซลลูโลสอยู่ในระบบทางเดินระบบอาหาร แต่บางชนิดมีการย่อยไม้นอกตัวปลวกโดยการสร้างจาวปลวก หรือ fungus garden ในฤดูกาลที่เหมาะสมจะเกิดเห็ดปลวก หรือเห็ดโคนขึ้น ซึ่งเราเก็บมารับประทานได้ เห็ดปลวกปัจจุบันนับว่าน้อยลง และราคาแพงขึ้น เป็นการกระตุ้นนักวิชาการให้ศึกษาวิจัยเห็ดนี้ ซึ่งปัจจุบันมีผลการศึกษาในระดับหนึ่ง ปลวกเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อการเกิดของเห็ดโคนมาก เพราะหากไม่มีปลวกอาศัยอยู่ใน จอมปลวกแล้ว เห็ดโคนก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ ส่วนการหาเห็ดโคนนั้นภูมิปัญญาท้องถิ่นก็ยังมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ด้วยว่า หาก จะหาเห็ดโคนให้เจอง่ายๆ แล้วต้องหาตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะใต้ต้นเห็ดโคนจะมีสารเรืองแสงอ่อนๆ คือธาตุฟอสฟอรัสอยู่ การหาเห็ดโคนตอนกลางคืนจึงหาเจอได้ง่ายกว่าหาตอนกลางวันมากเห็ดโคน เป็นเห็ดป่าเติบโตได้ดีในสภาพธรรมชาติ ความชื้นและอุณหภูมิที่พอเหมาะ มีรูปร่างเหมือนเห็ดทั่วไปคือมีก้านเห็ดและหมวกเห็ด ดอกใหญ่ โคนอวบหนา มีกลิ่นเฉพาะตัว มักเกิดตามจอมปลวก จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เห็ดปลวก มีการอพยพของปลวกที่เราเรียกว่า แมลงเม่า ออกจากรังปลวกเดิม เพื่อสร้างรังใหม่ การที่ฝนตกชุกจนมีความชุ่มชื้นเหมาะสม เมื่อปลวกในรังปลวกมีปริมาณลดลง ตุ่มดอกเห็ดเล็กๆ สามารถมีโอกาสที่จะเจริญเติบโตเป็นดอกเห็ดที่มีความชุ่มชื้นออกมาได้ คนไทยเรารู้จักเห็ดชนิดนี้มานานและรู้ว่าสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายชนิด ประกอบกับการที่เห็ดโคนเองมีรสชาติที่น่ารับประทาน จึงจัดเป็นเห็ดหายากจะต้องหาตามป่าเขา ห่างไกล ความเจริญ ซึ่งเห็ดโคนนั้นมีรสหวานอร่อยกว่าเห็ดอื่นๆ ปรุงง่ายเพียงต้มกับเกลือก็ได้น้ำต้มเห็ดรสหวานตามธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยเจริญอาหาร บำรุงกำลัง แก้บิด แก้คลื่นไส้ อาเจียน
แก้ไอ ละลายเสมหะ การทดลองทางเภสัชศาสตร์พบว่าน้ำที่สกัดจากเห็ดโคนสามารถยับยั้งเชื้อโรคบางชนิด เช่น เชื้อไทฟอยด์ได้ จึงเป็นที่นิยมกันมาก ซึ่งมีวางขายเฉพาะในฤดูฝนเท่านั้น
วิธีการเก็บเห็ดโคน ต้องใช้มือถอน ไม่ให้ใช้มีด จอบ หรือไม้ปลายแหลมที่อาจไปทำลายสวนเห็ดรา (fungus garden) ของปลวกซึ่งเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้เห็ดโคนเกิดขึ้นมาได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนช่องรูพรุนๆ ภายในสวนเห็ดราหรือโนดูล (nodule) ที่อยู่ในรังปลวก และเวลาเด็ดเห็ดโคนไปก็ให้เด็ดให้เหลือก้านติดอยู่ที่เดิม ไม่ให้ถอนส่วนที่เป็นสวนเห็ดราออกมาด้วย"

เห็ดโคนจึงจัดว่าเป็นเห็ดที่นิยมบริโภคถึงแม้ว่าจะมีราคาแพง แต่ก็มีหลายหน่วยงานที่จะทดลอง วิจัยเพาะพันธ์ผสมสูตรอาหารทางเคมีและเทคนิควิธีมากมาย ในการเพาะพันธ์เห็ดโคน แต่ก็ยังไม่สามารถประสบความสำเร็จจนถึงการเพาะเป็นอาชีพได้
ประโยชน์ของเชื้อเห็ดโคนป่าจากจาวปลวก (fungus garden) ที่มีต่อเกษตรกรและชุมชน
๑.ใช้สำหรับย่อยสลายฟางข้าวในแปลงนา จุลินทรีย์เชื้อเห็ดโคนป่ามีความสามารถในการย่อยสลาย
เซลลูโลสในเนื้อไม้ได้ดี เมื่อเรานำมาย่อยสลายฟางข้าวจะทำให้ฟางข้าวย่อยสลายอย่างรวดเร็ว
เกษตรกรจะได้ไม่ต้องเผาฟางข้าวก่อนที่จะเตรียมแปลงนา ทำให้ดินในแปลงนามีอินทรียวัตถุ
เพิ่มมากขึ้น ดินจะมีธาตุอาหารมากขึ้นทำให้ลดต้นทุนในการผลิตได้เป็นอย่างมาก
๒.ใช้ช่วยเพิ่มธาตุฟอสฟอรัส (P) เป็นธาตุที่พืชต้องการน้อยกว่าไนโตรเจน เมื่อพืชได้รับ
ฟอสฟอรัสเพียงพอ รากจะแข็งแรง ทนทานต่อการรบกวนของโรคแมลง ทำให้พืชออกดอก
ติดผล และมีคุณภาพดี จุลินทรีย์เชื้อเห็ดโคนป่า มีจุลินทรีย์ที่สามารถตรึงธาตุฟอสฟอรัสจากดิน
มาเลี้ยงพืชได้ ทำให้ชาวนาสามารถลดรายจ่ายในการใช้ปุ๋ยเคมีในนาข้าวได้มาก
๓.ใช้เป็นแหล่งอาหารของครอบครัวโดยนำเชื้อจุลินทรีย์เชื้อเห็ดโคนป่า ไปราดบริเวณโคนต้นไม้ที่
มีปลวกอาศัยอยู่เมื่ออากาศร้อนชื้นเหมาะสมก็จะเห็นเห็ดโคนป่าขึ้น สามารถนำไปเป็นอาหาร
และนำไปขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวได้อีกทาง
๔.ใช้ในการสร้างแรงจูงใจในการปลูกป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่างในพื้นที่ของตนเองเพื่อให้มี
พื้นที่สำหรับเป็นแหล่งอาหารของตนเอง โดยเฉพาะเห็ดโคนป่าที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ
จะสามารถทำให้อนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของชุมชนได้เป็นอย่างดี
๕. ใช้สำหรับย่อยสลายสมุนไพรในการทำน้ำหมักสมุนไพรป้องกันแมลงศัตรูพืช เชื้อจุลินทรีย์
เชื้อเห็ดโคนป่าสามารถย่อยสลายพืชสมุนไพรได้อย่างรวดเร็ว สามารถลดการใช้ส

Kết quả (Việt) 2:

Tôi muốn làm thế nào để mở rộng rừng nấm nhiễm do mối, mọt bột giấy (vườn nấm) đã được đăng như là kiến thức mà
hệ sinh thái bao gồm các nhà sản xuất, người tiêu dùng và phân hủy, được liên kết tính chất bổ sung của chuỗi. Thực phẩm và thực phẩm web dọc theo bề mặt của các hệ sinh thái đó. Đó là vương quốc của sự suy thoái của thiên nhiên, trong đó bao gồm một thu nhỏ rất nhiều loại khác nhau của hành vi để phân hủy hóa thạch để tái tạo năng lượng trong hệ sinh thái bao gồm mối, vi khuẩn, nấm, động vật và động vật đất trong đất. Suy thoái là một yếu tố trong chuỗi thực phẩm (Food Chain) và mạng lưới thức ăn (Food Web) xuống cấp của động vật khác nhau đóng một vai trò quan trọng như một tiểu. "Chất thải xanh" như hóa thạch để phân hủy và thay đổi thành đất mùn hoặc chất hữu cơ trong đất như các chất dinh dưỡng cho cây trồng và động vật khác. Việc truyền tải và phát ra năng lượng tái tạo nhiều gây ra sự cân bằng trong các hệ sinh thái
, mối là côn trùng xã hội rất quan trọng trong hệ sinh thái rừng là cả người sáng tạo và mối mọt hành động như phân hủy (. decomposer) là vật liệu hữu cơ được tìm thấy trong tự nhiên, chẳng hạn như các mảnh vụn thực vật, lá cây hoặc gỗ trầm khấu trừ sẽ được chuyển đổi thành đất mùn và gây ra một doanh thu nhanh chóng và tiếp tục các chất dinh dưỡng trong đất tạo ra rất nhiều để cung cấp. Với rừng tự nhiên
mối tham gia cũng đóng một chuỗi thức ăn phức tạp trong các hệ sinh thái. Ngoài ra, các tổ mối Một tổ lớn được xây dựng trên đất, thực vật hoặc động vật. Có thể được sử dụng như một nguồn thức ăn và nơi trú. Khả năng phân hủy các chất hữu cơ và cellulose trong loài mối gỗ được kết hợp với các loại khác nhau của các vi khuẩn sống trong ruột mối. Điều này sẽ thay đổi tùy Tùy thuộc vào loại Mối và môi trường
trong một loạt các tất cả các loại mối ăn gỗ, mặc dù một số loài vi khuẩn. Cellulose đường tiêu hóa trong hệ thống thực phẩm. Nhưng một số nằm ngoài mối và bột gỗ được tạo ra bởi mối, mọt, nấm trong vườn mùa nấm mối sắp tới. Hoặc nấm-up Chúng tôi thu thập ăn Nấm mối đếm hiện tại ít hơn. Và đắt hơn Khuyến khích các học giả nghiên cứu nấm này. Hiện nay các kết quả nghiên cứu ở một mức độ tại,
mối là động vật mang tính sống còn cho sự xuất hiện của một cây nấm lớn. Nếu bạn không sống trong một tổ mối và nấm mối, nó có thể không xảy ra. Phát hiện rằng nấm địa phương, nó cũng có một mẹo nhỏ mà sẽ làm cho nó dễ dàng cho chân nấm. Sau đó, vào ban đêm, chỉ để tìm thấy Bởi vì dưới nấm là ánh sáng huỳnh quang. Photpho nằm Tìm sở trường của họ, vì vậy vào ban đêm nó dễ dàng cho một ngày nhiều hơn
là sở trường của họ. Một nấm hoang dã phát triển mạnh trong trạng thái tự nhiên của nó. Độ ẩm và nhiệt độ vừa phải Có hình dạng như một cây nấm điển hình là một chiếc mũ nấm và cuống hoa hình nón tròn trĩnh, mùi dày. Thường được gây ra bởi Anthill Còn được gọi là sự di cư của loài mối, nấm mối được gọi là những con sâu bướm ra khỏi tổ mối. Để xây dựng một tổ mới Mưa và bộ quần áo ướt. Khi mối, tổ mối đã giảm. Nụ nấm nhỏ Bạn có thể có cơ hội để phát triển một cây nấm là ướt ra
ở Thái Lan, chúng ta biết trong một thời gian dài và biết rằng nấm có thể được thực hiện món ăn. Với nấm có vị ngon. Nó là hiếm để tìm thấy nấm hoang dã xa bùng nổ nấm có hương vị ngọt hơn các loại nấm khác. Nấu đơn giản là luộc với muối, nấm sau đó luộc, ngọt tự nhiên
cũng giúp sự thèm ăn bổ chữa bệnh kiết lỵ, buồn nôn, nôn mửa
, ho, tan đờm nghiệm Dược, cho thấy nước chiết xuất từ nấm có thể ức chế vi khuẩn, một số loài, chẳng hạn như nhiễm trùng. Thương hàn có Phổ biến nhất Mà chỉ được bán trong mùa mưa, chỉ có
cách để giữ sở trường của họ. Hands rút việc sử dụng dao, xẻng hoặc thanh sắc có thể tiêu diệt các loại nấm, làm vườn (vườn nấm), đó là nguồn gốc của nấm mối đã xảy ra. Và để ngăn chặn bất kỳ lỗ chân kênh xáo trộn. Bên trong công viên, nấm hoặc các nút lọc (nốt) trong tổ mối. Hiện là decidedly mát mẻ để cuống nấm gắn với bản gốc. Không được rút vườn nấm bùng nổ với " nấm là một loại nấm mà thường được tiêu thụ, thậm chí nếu nó là tốn kém. Nhưng có rất nhiều cơ quan để thử nghiệm. Chăn nuôi hỗn hợp hóa chất nghiên cứu và bao nhiêu. Trong chăn nuôi nấm Nhưng bạn cũng không thể thành công cho đến văn hóa như là một sự nghiệp Lợi ích của việc nhiễm trùng từ hoang dã mối nấm bột giấy (vườn nấm) cho nông dân và cộng đồng 1. Đối với rơm phân hủy sinh học trong lĩnh vực này. Vi sinh vật nấm hoang dã có khả năng phân hủy cellulose trong gỗ tốt. Khi chúng tôi phân hủy rơm rạ, rơm rạ để làm xuống cấp nhanh chóng nông dân không có ruộng để đốt rơm trước bạn chuẩn bị. Đất với các chất hữu cơ trong lĩnh vực này ngày càng tăng. Chất dinh dưỡng của đất được tăng chi phí sản xuất là rất nhiều 2. tăng cường phốt pho (P) là những yếu tố mà cây cần ít nitơ. Khi cây có đủ rễ phốt pho là kháng cự mạnh với bệnh tật, sự phá hoại của côn trùng. Hoa cây ăn quả Và tốt Vi sinh vật nấm hoang dã Có vi khuẩn có thể đóng băng phốt pho từ đất để nuôi cây. Nông dân có thể làm giảm chi phí cho phân bón hóa học trong nhiều lúa của gia đình 3. Sử dụng một nguồn thức ăn do vi khuẩn nhiễm nấm hoang dã. Để các cơ sở của cây đứng đầu với khí hậu nhiệt đới, mối sống khi thích hợp, rừng nấm. Có thể được sử dụng như thực phẩm và được bán để quyên tiền cho các gia đình, một 4 để tạo ra ưu đãi để trồng rừng 3 của 4 trong khu vực của họ để cung cấp một không gian cho thực phẩm của chính họ. Các nấm hoang dã có giá trị kinh tế cho cộng đồng và môi trường, bảo tồn các nguồn tài nguyên có thể làm cho một tốt thứ năm. Sử dụng dược liệu phân hủy sinh học, ướp trong nước để ngăn ngừa sâu bệnh. Vi khuẩn nhiễm trùng có thể làm suy giảm cây nấm rừng một cách nhanh chóng. Có thể làm giảm việc sử dụng các