การวิจัยการใช้สมุนไพรทดแทนยาปฏิชีวนะในการผลิตเนื้อหมูที่ปลอดภัยฮิต: 22 dịch - การวิจัยการใช้สมุนไพรทดแทนยาปฏิชีวนะในการผลิตเนื้อหมูที่ปลอดภัยฮิต: 22 Việt làm thế nào để nói

การวิจัยการใช้สมุนไพรทดแทนยาปฏิชีวน

การวิจัยการใช้สมุนไพรทดแทนยาปฏิชีวนะในการผลิตเนื้อหมูที่ปลอดภัย

ฮิต: 2283
จากกระแสของผู้บริโภคที่ได้ตระหนักถึงการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหมูและเนื้อไก่ที่มีวางขายในตลาดทั่วไป ได้มีการตรวจพบสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ได้แก่ ยาปฏิชีวนะชนิดต่างๆ และเมื่อต่างประเทศได้ส่งคืนเนื้อ.จากประเทศไทยที่ตรวจพบยาปฏิชีวนะตกค้าง ทำให้สื่อมวลชนและผู้บริโภคให้ความสนใจยิ่งขึ้น และเมื่อรัฐบาลได้เห็นความสำคัญของปัญหายาตกค้างในเนื้อ. จึงได้เริ่มมีการประกาศห้ามใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิดในการเลี้ยง. ทำให้เกษตรกรโดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเริ่มเกิดปัญหาเกี่ยวกับหมูที่เลี้ยงที่แต่เดิมมีการใช้ยาปฏิชีวนะมากอยู่แล้ว เมื่อเลิกใช้ทำให้หมูเจ็บป่วยมากขึ้น จึงเกิดการลักลอบใช้ยาปฏิชีวนะที่ห้ามใช้ต่อไป เนื่องจากเกษตรกรไม่มีทางเลือกอื่นที่จะนำมาทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่จะต้องหาสิ่งอื่นมาใช้ทดแทน "สมุนไพร" จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่มีศักยภาพในการวิจัยนำมาใช้ทดแทนยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงหมู เพื่อให้ได้เนื้อหมูที่ปลอดภัยต่อไป

แนวทางการวิจัยการใช้สมุนไพรในการเลี้ยงหมู
จากปัญหาการใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงหมูที่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จึงสนับสนุนงบประมาณให้กับทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ให้ทำการวิจัยนำสมุนไพรมาใช้ทดแทนยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงหมู เพื่อผลิตเนื้อหมูที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค แต่เนื่องจากการวิจัยการนำสมุนไพรมาใช้เลี้ยงหมูยังเป็นเรื่องใหม่จึงต้องใช้นักวิจัยจากหลายสาขามาร่วมกัน คณะผู้วิจัยจึงประกอบไปด้วยนักวิจัยจากสาขาพฤกษศาสตร์ เภสัชศาสตร์ จุลชีววิทยา สัตวศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์เนื้อ. และจากสาขาพัฒนาการเกษตร จำนวน 12 คน ได้ทำการวิจัยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543
โดยมีการศึกษาทัศนคติของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต่อการใช้สมุนไพรในการเลี้ยงหมู การศึกษาทัศนคติของผู้บริโภคเนื้อหมูต่อการเลี้ยงหมูด้วยสมุนไพร การวิเคราะห์สารออกฤทธิ์ในสมุนไพร 5 ชนิด ที่ใช้วิจัยคือ ฟ้าทะลายโจร ใบฝรั่ง ขมิ้นชัน ไพล และเปลือกผลมังคุด การศึกษาการเตรียมยาสมุนไพร การศึกษาแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงและโรคระบบทางเดินหายใจในหมู การทดสอบฤทธิ์ของสมุนไพรในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคในห้องปฏิบัติการเปรียบเทียบกับยาปฏิชีวนะ การทดสอบฤทธิ์ของสมุนไพรในการรักษาหมูที่ป่วยเป็นโรคท้องร่วงและโรคระบบทางเดินหายใจเปรียบเทียบกับยาปฏิชีวนะ การศึกษาการใช้สมุนไพรทดแทนยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงหมู การศึกษาคุณภาพซากหมูที่เลี้ยงด้วยสมุนไพร และการศึกษารสชาติของเนื้อหมูและไขมันในเลือดหมูที่เลี้ยงด้วยสมุนไพร ซึ่งการวิจัยดังกล่าวใช้เวลาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 ถึง พ.ศ. 2547 โดยใช้หมูในการศึกษามากกว่า 500 ตัว
ผลของการวิจัยการใช้สมุนไพรในการเลี้ยงหมู
1. ทัศนคติของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต่อการใช้สมุนไพรในการเลี้ยงหมู : จากการเก็บข้อมูลเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู 600 ราย ในจังหวัดสงขลา พัทลุง และตรัง พบว่าฟาร์มขนาดใหญ่มีปัญหาหมูเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเป็นอันดับแรก ขณะที่ฟาร์มขนาดเล็กมีปัญหาหมูเป็นโรคท้องร่วงเป็นอันดับแรก เกษตรกรร้อยละ 53.7 คิดว่าการใช้สมุนไพรยุ่งยากกว่าใช้ยาแผนปัจจุบัน เกษตรกรร้อยละ 65.8 คิดว่าถ้าใช้สมุนไพรรักษา.ต้องใช้บ่อยครั้ง และร้อยละ 50.3 ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลเท่ายาแผนปัจจุบัน แต่เกษตรกรร้อยละ 83.3 ต้องการทดลองใช้สมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบันในการเลี้ยงหมู และร้อยละ 80.3 คิดจะได้เนื้อหมูที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
2. ทัศนคติของผู้บริโภคเนื้อหมูต่อการเลี้ยงหมูด้วยสมุนไพร : จากการเก็บข้อมูลผู้บริโภคเนื้อหมู 700 คน ในจังหวัดสงขลาพบว่าผู้บริโภค 44.1 % ชอบบริโภคเนื้อหมูมากที่สุด รองลงมา 39.1 % บริโภคอาหารทะเลมากที่สุด และ 5.6 % บริโภคเนื้อไก่มากที่สุด สาเหตุที่บริโภคเนื้อหมูมากที่สุด 86.1 % บอกว่า หาซื้อง่ายและรสชาติดี ขณะที่ผู้บริโภคเนื้อหมูน้อย 83.8 % ให้เหตุผลว่า กลัวสารตกค้างในเนื้อหมู และ 78.4 % กลัวไขมันในเนื้อหมูมีผลต่อสุขภาพ นอกจากนี้ผู้บริโภค 76.9 % เชื้อว่าในเนื้อหมูมีสารพิษตกค้าง ผู้บริโภค 89 % เห็นด้วยว่าไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะเลี้ยงหมู และ 90.4 % เห็นด้วยที่ควรวิจัยนำสมุนไพรมาใช้ทดแทนยาปฏิชีวนะ และผู้บริโภค 81.4 % มั่นใจที่จะซื้อเนื้อหมูสมุนไพรมาบริโภคถ้ามีจำหน่าย
3. การเตรียมสมุนไพรบดแห้ง : จากการทดลองเตรียมสมุนไพรบดแห้ง 5 ชนิด พบว่า การตากแดด 1-2 วัน และอบด้วยลมร้อนที่อุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส นาน 24 ชั่วโมง จะได้สมุนไพรที่มีความชื้น 3.5-7.2 % โดยจากการคำนวณจากน้ำหนักสดพบว่าเมื่อเตรียมเป็นสมุนไพรแห้งแล้ว ขมิ้นชัน ไพล เปลือกผลมังคุด ฟ้าทะลายโจร และใบฝรั่ง จะได้น้ำหนักแห้ง 10.2, 12.4, 35.5, 26.5 และ 46.1 % ตามลำดับ และสามารถเก็บไว้ได้นานอย่างน้อย 1 เดือน ที่ยังคงสภาพทางชีวภาพและกายภาพ ยกเว้นไพลจะมีการเปลี่ยนสี
4. การวิเคราะห์สารออกฤทธิ์ในสมุนไพร : จากการวิเคราะห์ตัวอย่างสมุนไพรแห้ง 5 ชนิด พบว่า ฟ้าทะลายโจรมีสาร lactone 9.72 % ใบฝรั่งมีสาร tannin 13.33 % เปลือกผลมังคุดมีสาร tannin 4.25 % ขมิ้นชันมีสาร curcuminoids 10.44 % และ volatile oil 7.0 % ส่วนไพลมีสาร volatile oil 2.5 %
5. การตรวจแยกเชื้อแบคทีเรียในหมูที่เป็นโรคท้องร่วงและโรคระบบทางเดินหายใจ : จากการเก็บมูลของลูกหมูยังไม่หย่านมที่ท้องร่วง 42 ตัว พบว่ามีเชื้อ E. coli รวม 101 isolates แต่ไม่พบเชื้อ Salmonella sp. และ Shigella sp. แต่เมื่อเก็บมูลของหมูหลังหย่านมที่อายุ 2-3 เดือนที่ท้องร่วง 15 ตัวอย่าง สามารถตรวจพบเชื้อ Salmonella sp. 8 isolates แต่ไม่พบเชื้อ Shigella sp. และจากการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งในจมูกของหมูที่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ 44 ตัวอย่าง พบเชื้อ -Streptococcus non group A 15.91 % และพบเชื้อ -Streptococcus group A 90.91 % แต่ไม่สามารถแยกเชื้อ Mycoplasma sp. เนื่องจากมีการปนเปื้อนของเชื้ออื่น
6. การทดสอบฤทธิ์สมุนไพรเปรียบเทียบกับยาปฏิชีวนะในห้องปฏิบัติการ : จากการทดสอบการดื้อยาของเชื้อ E.coli 106 isolates ด้วยยาปฏิชีวนะ 8 ชนิด พบว่าเชื้อมีการดื้อยา tetracycline 98.2 % รองลงมาเป็น Sulfa-trimethoprim 83.0 % และดื้อยาน้อยที่สุดคือ norfloxacin 22.6 % และเมื่อทดสอบกับสารสกัดจากสมุนไพรทั้ง 5 ชนิด พบว่า ใบฝรั่งมีฤทธิ์ยับยั้ง เชื้อ E.coli สารสกัดจากเปลือกผลมังคุดมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ Salmonella sp. และสารสกัดจากไพลมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อ E.coli และเชื้อ Salmonella sp.
0/5000
Từ: -
Sang: -
Kết quả (Việt) 1: [Sao chép]
Sao chép!
Nghiên cứu bằng cách sử dụng thảo dược thay thế cho thuốc kháng sinh sản xuất thịt heo an toàn.Lượt truy cập: 2283Từ của người tiêu dùng nhận ra thực phẩm tiêu thụ hiện tại mà còn an toàn. Đặc biệt là thịt heo và gà thịt với dán được bán tại thị trường nói chung đã là phát hiện dư lượng mà có thể gây hại cho người tiêu dùng, bao gồm cả loại khác nhau của thuốc kháng sinh, và khi ở nước ngoài đã trở về từ Thái Lan nơi cơ thể. dư lượng kháng sinh phát hiện. Làm cho sự chú ý phương tiện truyền thông và người tiêu dùng và khi chính phủ vấn đề tầm quan trọng của dư lượng thuốc trong thịt. Nó bắt đầu với việc công bố một số loại thuốc kháng sinh bị cấm trong nguồn cấp dữ liệu. Nông dân, đặc biệt là nông dân lợn bắt đầu nuôi heo, về vấn đề đã là ban đầu đã có thuốc kháng sinh. Khi được sử dụng để làm cho thịt lợn thêm bệnh. Do đó được sinh ra việc sử dụng bất hợp pháp của thuốc kháng sinh mà không áp dụng ở đây, bởi vì nông dân đã không có thay thế khác để thay thế việc sử dụng thuốc kháng sinh. Vì lý do này, nó là cần thiết để tìm hiểu những gì thay thế khác "herb" là một trong đó có tiềm năng để được sử dụng như là một thay thế cho các nghiên cứu của thuốc kháng sinh trong con lợn. Để có được thịt lợn tiếp theo an toàn. Các phương pháp nghiên cứu sử dụng ở lợnTừ việc sử dụng thuốc kháng sinh trong con lợn có khả năng nghiêm trọng hơn. Thái Lan nghiên cứu quỹ (TRF), do đó hỗ trợ ngân sách, nhóm nghiên cứu từ Đại học Hoàng tử Songkhla, nghiên cứu các loại thảo mộc, được sử dụng như là thay thế cho thuốc kháng sinh trong con lợn. Để sản xuất thịt heo an toàn tiêu dùng Nhưng bởi vì nghiên cứu các loại thảo mộc sử dụng con lợn để một nhà nghiên cứu cần phải mới từ nhiều ngành đến với nhau. Các nhà nghiên cứu do đó bao gồm các nhà nghiên cứu từ thực vật, vi sinh vật học dược phẩm chi nhánh khoa học thú y, khoa học thú y và khoa học thịt từ 12 chi nhánh nghiên cứu nông nghiệp đã được thực hiện kể từ khi người 2543 người.โดยมีการศึกษาทัศนคติของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต่อการใช้สมุนไพรในการเลี้ยงหมู การศึกษาทัศนคติของผู้บริโภคเนื้อหมูต่อการเลี้ยงหมูด้วยสมุนไพร การวิเคราะห์สารออกฤทธิ์ในสมุนไพร 5 ชนิด ที่ใช้วิจัยคือ ฟ้าทะลายโจร ใบฝรั่ง ขมิ้นชัน ไพล และเปลือกผลมังคุด การศึกษาการเตรียมยาสมุนไพร การศึกษาแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงและโรคระบบทางเดินหายใจในหมู การทดสอบฤทธิ์ของสมุนไพรในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคในห้องปฏิบัติการเปรียบเทียบกับยาปฏิชีวนะ การทดสอบฤทธิ์ของสมุนไพรในการรักษาหมูที่ป่วยเป็นโรคท้องร่วงและโรคระบบทางเดินหายใจเปรียบเทียบกับยาปฏิชีวนะ การศึกษาการใช้สมุนไพรทดแทนยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงหมู การศึกษาคุณภาพซากหมูที่เลี้ยงด้วยสมุนไพร และการศึกษารสชาติของเนื้อหมูและไขมันในเลือดหมูที่เลี้ยงด้วยสมุนไพร ซึ่งการวิจัยดังกล่าวใช้เวลาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 ถึง พ.ศ. 2547 โดยใช้หมูในการศึกษามากกว่า 500 ตัวKết quả của nghiên cứu, việc sử dụng các loại thảo mộc trong con lợn.1. ทัศนคติของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต่อการใช้สมุนไพรในการเลี้ยงหมู : จากการเก็บข้อมูลเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู 600 ราย ในจังหวัดสงขลา พัทลุง และตรัง พบว่าฟาร์มขนาดใหญ่มีปัญหาหมูเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเป็นอันดับแรก ขณะที่ฟาร์มขนาดเล็กมีปัญหาหมูเป็นโรคท้องร่วงเป็นอันดับแรก เกษตรกรร้อยละ 53.7 คิดว่าการใช้สมุนไพรยุ่งยากกว่าใช้ยาแผนปัจจุบัน เกษตรกรร้อยละ 65.8 คิดว่าถ้าใช้สมุนไพรรักษา.ต้องใช้บ่อยครั้ง และร้อยละ 50.3 ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลเท่ายาแผนปัจจุบัน แต่เกษตรกรร้อยละ 83.3 ต้องการทดลองใช้สมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบันในการเลี้ยงหมู และร้อยละ 80.3 คิดจะได้เนื้อหมูที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค2. ทัศนคติของผู้บริโภคเนื้อหมูต่อการเลี้ยงหมูด้วยสมุนไพร : จากการเก็บข้อมูลผู้บริโภคเนื้อหมู 700 คน ในจังหวัดสงขลาพบว่าผู้บริโภค 44.1 % ชอบบริโภคเนื้อหมูมากที่สุด รองลงมา 39.1 % บริโภคอาหารทะเลมากที่สุด และ 5.6 % บริโภคเนื้อไก่มากที่สุด สาเหตุที่บริโภคเนื้อหมูมากที่สุด 86.1 % บอกว่า หาซื้อง่ายและรสชาติดี ขณะที่ผู้บริโภคเนื้อหมูน้อย 83.8 % ให้เหตุผลว่า กลัวสารตกค้างในเนื้อหมู และ 78.4 % กลัวไขมันในเนื้อหมูมีผลต่อสุขภาพ นอกจากนี้ผู้บริโภค 76.9 % เชื้อว่าในเนื้อหมูมีสารพิษตกค้าง ผู้บริโภค 89 % เห็นด้วยว่าไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะเลี้ยงหมู และ 90.4 % เห็นด้วยที่ควรวิจัยนำสมุนไพรมาใช้ทดแทนยาปฏิชีวนะ และผู้บริโภค 81.4 % มั่นใจที่จะซื้อเนื้อหมูสมุนไพรมาบริโภคถ้ามีจำหน่าย3. chuẩn bị các loại thảo mộc khô băm: Các chế phẩm thảo dược từ mài khô 5 tìm thấy rằng 1-2 ngày và Sun nướng với không khí nóng ở nhiệt độ 55 độ c. Một đầy đủ 24 giờ để có được độ ẩm có 3,5-7,2% theo trọng lượng được tính toán từ các loại thảo mộc tươi và khô khi chuẩn bị để được tìm thấy. Măng cụt chẩn đoán nghệ Peel nước mắt và ổi sẽ khô trọng lượng 10.2, 12.4% và 46.1 35,5, 26.5, tương ứng, và có thể được lưu trữ trong một thời gian dài, ít nhất 1 tháng tại sinh học và vật lý môi trường vẫn tiếp tục, với ngoại lệ của Sơn Plai.4. việc phân tích hợp chất trongCác loại thảo mộc: loại thảo dược khô từ một phân tích của một mẫu 5 tìm thấy rằng nước mắt có chứa các chất 9,72% lacton ổi chứa tannin 13.33% măng cụt vỏ chứa tannin 4,25% nghệ chứa dầu dễ bay hơi curcuminoit 10,44% và 7,0% volatile dầu chứa chẩn đoán phần 2,5%.5. kiểm tra các vi khuẩn loại trừ trong thịt lợn như tiêu chảy và các bệnh đường hô hấp và các rối loạn: từ bộ sưu tập của tiêu chảy heo con cai không 42 E. coli được tìm thấy bao gồm Salmonella chủng, nhưng tìm thấy không có nhiễm trùng 101 sp. và Shigella sp., nhưng khi lưu trữ nội dung của lợn sau tuổi y tá 2-3 tháng, tiêu chảy 15, ví dụ, có thể phát hiện nhiễm Salmonella cô lập, nhưng không thể tìm thấy sp 8 Shigella nhiễm sp. và từ các chất thu thập chiếu ở mũi của một con lợn bệnh nhân bệnh đường hô hấp là 44 ví dụ, Streptococcus group A nhiễm đã được tìm thấy non-15.91% và nhóm A liên cầu nhiễm trùng found-90.91% nhưng không điều cô lập sp. do ô nhiễm của nhiên liệu để khác.6. để kiểm tra hiệu quả của các loại thảo mộc so với thuốc kháng sinh trong phòng thí nghiệm y học: từ thử nghiệm chủng kháng E.coli nhiễm trùng với thuốc kháng sinh, 106 8 thấy rằng tetracycline kháng thuốc nhiễm trùng với 98,2% 83,0% Sulfa-trimethoprim là thứ hai thuốc kháng sinh và ít nhất là 22,6%, norfloxacin, và khi một thử nghiệm là để trích xuất tất cả 5 loại thảo dược tìm thấy E.coli nhiễm trùng có thể ức chế các chiết xuất ổi ức chế vi khuẩn quá trình vỏ. Salmonella sp Zingiber cassumunar và giải nén có thể ức chế E.coli nhiễm trùng và nhiễm trùng ở Salmonella sp.
đang được dịch, vui lòng đợi..
Kết quả (Việt) 2:[Sao chép]
Sao chép!
Nghiên cứu sử dụng thuốc kháng sinh thảo dược thay thế trong sản xuất thịt lợn, an toàn Hits: 2283 từ nhận thức của người tiêu dùng hiện nay về an toàn thực phẩm hơn. Đặc biệt là thịt lợn và thịt gà bán tại các thị trường nói chung. Đã phát hiện dư lượng có hại cho người tiêu dùng, kể cả thuốc kháng sinh khác nhau. Và khi ở nước ngoài đã trở về thịt. Từ Thái Lan để phát hiện tồn dư kháng sinh. Làm phương tiện truyền thông và sự chú ý của người tiêu dùng nhiều hơn. Chính phủ đã công nhận tầm quan trọng của dư lượng thuốc trong thịt. Đã bắt đầu cấm loại thuốc kháng sinh được sử dụng trong nông nghiệp. Nông dân, đặc biệt là những người nông dân chăn nuôi lợn từ lợn ăn một vấn đề với điều đó, nhưng nó đã được dùng thuốc kháng sinh. Khi người dùng làm cho lợn bệnh hơn. Do đó sinh sử dụng trái phép các loại thuốc kháng sinh mà không được phép đi. Bởi vì nông dân không có lựa chọn khác để thay thế cho thuốc kháng sinh. Do đó, cần thiết phải tìm cái gì khác để thay thế cho "thảo dược" là một trong đó có khả năng nghiên cứu để thay thế kháng sinh trong thức ăn cho lợn. Đối với thịt lợn, an ninh sau đây hướng dẫn cho các nghiên cứu sử dụng các loại thảo mộc để nuôi lợn từ việc sử dụng kháng sinh trong chăn nuôi lợn, trong đó có thể sẽ là nghiêm trọng hơn. Quỹ Văn phòng Nghiên cứu (TRF). Kinh phí cho nhóm nghiên cứu từ Đại học để nghiên cứu các loại thảo mộc để thay thế kháng sinh trong thức ăn cho lợn. Để sản xuất thịt là an toàn cho người tiêu dùng. Nhưng do các loại thảo mộc nghiên cứu dùng để nuôi lợn là mới, nó đòi hỏi các nhà nghiên cứu từ các lĩnh vực khác nhau đến với nhau. Nhóm nghiên cứu gồm các nhà nghiên cứu từ thực vật học, động vật học, vi sinh học, dược phẩm, thuốc thú y. Thịt Science. Và từ các lĩnh vực phát triển nông nghiệp, 12 người đã được nghiên cứu từ năm 2543 bởi thái độ của người chăn nuôi lợn sử dụng các loại thảo mộc để nuôi lợn. Các nghiên cứu về thái độ của người tiêu dùng để nuôi lợn lợn với các loại thảo mộc. Phân tích các thành phần hoạt chất trong các loại thảo dược năm loại nghiên cứu là lá paniculata, nghệ, curcumin, và gọt vỏ trái cây. Nghiên cứu chuẩn bị các loại thuốc thảo dược Các vi khuẩn gây tiêu chảy và bệnh hô hấp ở lợn. Để kiểm tra sức mạnh của các loại thảo mộc để diệt các vi khuẩn gây bệnh trong phòng thí nghiệm so sánh với các loại thuốc kháng sinh. Để kiểm tra tác động của các loại thảo dược để điều trị bệnh lợn, tiêu chảy và các bệnh đường hô hấp so với thuốc kháng sinh. Nghiên cứu sử dụng thuốc kháng sinh thảo dược thay thế trong thức ăn cho lợn. Chất lượng của xác thịt lợn được nuôi bằng các loại thảo mộc. Và hương vị của thịt lợn và thịt lợn mỡ ăn với các loại thảo mộc. Các nghiên cứu, diễn 2543-2547, sử dụng hơn 500 con lợn để nghiên cứu các kết quả của các nghiên cứu, việc sử dụng các loại thảo mộc ở lợn đầu tiên. Thái độ của những người nông dân chăn nuôi lợn trên việc sử dụng các loại thảo mộc ở lợn: Các hộ chăn nuôi lợn lưu trữ 600 tại Songkhla, Phatthalung, Trang và thấy rằng các trang trại lớn có bệnh hô hấp lợn đầu tiên. Là một trang trại nhỏ với lợn bị tiêu chảy đầu tiên. 53,7 phần trăm nông dân nghĩ rằng việc sử dụng các thảo dược cồng kềnh hơn so với sử dụng ma túy. 65,8 phần trăm nông dân nghĩ rằng nếu việc sử dụng các biện pháp thảo dược. Yêu cầu thường xuyên và 50,3 phần trăm là không chắc chắn đó sẽ là tương đương với y học hiện đại. Nhưng người nông dân, 83,3 phần trăm muốn thử thay thế thảo dược y học hiện đại, lợn và 80,3 phần trăm nghĩ rằng nó là an toàn để tiêu thụ thịt heo 2. Thái độ của người tiêu dùng thịt lợn để nuôi lợn với các loại thảo mộc từ người tiêu dùng bảo quản thịt heo, 700 người ở Songkhla thấy rằng người tiêu dùng 44,1% như tiêu thụ thịt lợn nhiều nhất, giảm 39,1% tiêu thụ hải sản càng tốt, và 5.6. % tiêu thụ thịt nhất Tiêu thụ thịt lợn gây ra phần lớn 86,1% cho biết dễ dàng để mua và hương vị tốt. Trong khi người tiêu dùng thịt lợn ít nhất 83,8%, cãi nhau luôn lo sợ dư trong thịt lợn và thịt lợn béo, 78,4% ảnh hưởng sức khỏe sợ hãi. Ngoài ra, người tiêu dùng 76,9% tin ở người tiêu dùng thịt lợn tồn dư 89% đồng ý rằng nó không nên dùng kháng sinh lợn và 90,4% đồng ý với các ý tưởng để nghiên cứu các loại thảo mộc để thay thế thuốc kháng sinh và tiêu dùng 81,4% sự tự tin. mua thịt lợn sản phẩm thuốc nếu có 3. Các loại thảo mộc khô: loại thảo mộc khô từ các thử nghiệm cho thấy rằng, năm của mặt trời trong vòng 1-2 ngày và sấy khô bằng khí nóng ở nhiệt độ 55 ° C trong 24 giờ sẽ là 3,5-7,2% bằng thảo dược ẩm là từ. tính từ trọng lượng tìm thấy rằng khi chuẩn bị một loại thảo mộc khô và bột nghệ, curcumin vỏ trái cây Creat và ổi lá có thể làm khô cân nặng 10,2, 12,4, 35,5, 26,5 và 46,1%, tương ứng, và có thể được lưu trữ ít nhất một tháng. điều kiện sinh học và vật lý vẫn còn. Việc thí điểm sẽ thay đổi màu 4. Phân tích các thành phần hoạt chất trong các loại thảo dược: từ việc phân tích các mẫu khô các loại thảo mộc năm loài tạo chứa lacton 9,72% lá ổi có chứa tannin 13.33% vỏ trái cây có chứa tannin 4,25% Củ nghệ chứa curcuminoids 10,44% và dầu dễ bay hơi 7.0. % 2,5% dầu gừng có chứa biến động 5. Sự cô lập của vi khuẩn, trong đó có tiêu chảy và hệ hô hấp: thu thập dữ liệu chưa cai sữa lợn con bị tiêu chảy mà 42 đã được tìm thấy bị nhiễm E. coli. nhưng không phải tổng số 101 chủng vi khuẩn Salmonella sp., và Shigella sp., nhưng khi phân cửa hàng của lợn cai sữa lúc 2-3 tháng tuổi, tiêu chảy, 15 mẫu có thể được phát hiện Salmonella sp. 8 phân lập nhưng không nhiễm Shigella sp. và từ. lấy mẫu dịch tiết trong mũi của một bệnh lợn, nhiễm trùng đường hô hấp 44 mẫu -Streptococcus không nhóm A 15,91% và nhóm -Streptococcus HIV Một 90.91%, nhưng không được cô lập từ Mycoplasma sp., do chiến tranh. ô nhiễm của các chủng khác 6. Các thử nghiệm so sánh tác dụng của thuốc kháng sinh thảo dược trong phòng thí nghiệm kiểm tra sức đề kháng của bệnh E.coli 106 cô lập với tám loài được tìm thấy nhiễm kháng thuốc kháng sinh tetracycline 98,2%, tiếp theo là Sulfa-trimethoprim 83,0% và sức đề kháng kém. norfloxacin nhất 22,6% khi thử nghiệm với các năm loại thảo dược chiết xuất ức chế E.coli chiết từ lá vi khuẩn ổi của măng cụt ức chế lây nhiễm Salmonella sp. và trích xuất curcumin là ức chế. nhiễm của vi khuẩn E.coli và Salmonella sp.













đang được dịch, vui lòng đợi..
 
Các ngôn ngữ khác
Hỗ trợ công cụ dịch thuật: Albania, Amharic, Anh, Armenia, Azerbaijan, Ba Lan, Ba Tư, Bantu, Basque, Belarus, Bengal, Bosnia, Bulgaria, Bồ Đào Nha, Catalan, Cebuano, Chichewa, Corsi, Creole (Haiti), Croatia, Do Thái, Estonia, Filipino, Frisia, Gael Scotland, Galicia, George, Gujarat, Hausa, Hawaii, Hindi, Hmong, Hungary, Hy Lạp, Hà Lan, Hà Lan (Nam Phi), Hàn, Iceland, Igbo, Ireland, Java, Kannada, Kazakh, Khmer, Kinyarwanda, Klingon, Kurd, Kyrgyz, Latinh, Latvia, Litva, Luxembourg, Lào, Macedonia, Malagasy, Malayalam, Malta, Maori, Marathi, Myanmar, Mã Lai, Mông Cổ, Na Uy, Nepal, Nga, Nhật, Odia (Oriya), Pashto, Pháp, Phát hiện ngôn ngữ, Phần Lan, Punjab, Quốc tế ngữ, Rumani, Samoa, Serbia, Sesotho, Shona, Sindhi, Sinhala, Slovak, Slovenia, Somali, Sunda, Swahili, Séc, Tajik, Tamil, Tatar, Telugu, Thái, Thổ Nhĩ Kỳ, Thụy Điển, Tiếng Indonesia, Tiếng Ý, Trung, Trung (Phồn thể), Turkmen, Tây Ban Nha, Ukraina, Urdu, Uyghur, Uzbek, Việt, Xứ Wales, Yiddish, Yoruba, Zulu, Đan Mạch, Đức, Ả Rập, dịch ngôn ngữ.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: